SEO Fundamentals

การทำ SEO คืออะไร ?

SEO หรือ Search Engine Optimization คือกระบวนการปรับปรุงเว็บไซต์ เพื่อให้เว็บไซต์ของคุณมีโอกาสติดอันดับการค้นหาบน Google ซึ่งการทำ SEO เป็นกระบวนการที่ซับซ้อนและมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ด้วยเหตุผลนี้ การทำความเข้าใจพื้นฐานของ SEO จะช่วยให้คุณมีแนวทางปรับปรุงเว็บไซต์ เพื่อเพิ่มโอกาสให้เว็บไซต์ของคุณติดอันดับการค้นหาดีขึ้น 

.

SEO ต้องทำอะไรบ้าง

การทำ SEO ประกอบด้วย 3 ส่วนหลัก ดังนี้   

• On-Page SEO : การปรับแต่งเนื้อหาบนหน้าเว็บไซต์ให้สอดคล้องกับปัจจัยการค้นหาของ Google เช่น โครงสร้างเว็บไซต์ การเลือกใช้คำค้นหา (Keyword) การเขียนบทความคุณภาพ และประสิทธิภาพการใช้งานเว็บไซต์ ฯลฯ  
• Off-Page SEO : การสร้างลิงก์จากเว็บไซต์อื่นเชื่อมไปยังเว็บไซต์ของคุณ ซึ่งจะช่วยเพิ่มคะแนนความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์คุณในสายตา Google
• Technical SEO : การทำให้เว็บไซต์ของคุณมีประสิทธิภาพการทำงานที่ดีขึ้นด้วยปัจจัยทางเทคนิค ซึ่งจะช่วยปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานของผู้ใช้ อีกทั้งยังช่วยให้เว็บไซต์ของคุณมีโอกาสติดอันดับการค้นหาบน Google มากขึ้น 

.

หลักการทำงานของ Google Search

Google Search คือเครื่องมือค้นหาที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถค้นหาข้อมูลบนเว็บไซต์ได้ง่ายและรวดเร็วขึ้น ซึ่งเครื่องมือ Google Search ใช้อัลกอริทึมที่ซับซ้อนสำหรับการจัดอันดับเว็บไซต์ โดยพิจารณาจากหลายปัจจัย เช่น คอนเทนต์ โครงสร้างเว็บไซต์ และจำนวนลิงก์นอกที่เชื่อมไปยังเว็บไซต์ 

.

กระบวนการทำงานของ Google Search 

มีทั้งหมด 4 ขั้นตอนหลัก ดังนี้

• การรวบรวมข้อมูล (Crawling) : ซอร์ฟแวร์ของ Google ที่เรียกว่า “Googlebot” จะทำหน้าที่รวบรวมข้อมูลจากเว็บไซต์ใหม่และเว็บไซต์ที่มีการอัปเดตอยู่ตลอดเวลา โดย Googlebot จะเริ่มต้นรวบรวมข้อมูลจากเว็บไซต์ที่มีลิงก์เชื่อมมาจากเว็บไซต์อื่น หลังจากนั้น จะทำการรวบรวมข้อมูลของเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาใกล้เคียงกับเว็บไซต์เหล่านั้น 
• การจัดทำดัชนี (Indexing) : หลังจากที่ Googlebot รวบรวมข้อมูลจากเว็บไซต์อื่นแล้ว จะเข้าสู่ขั้นตอนการจัดทำดัชนีเว็บไซต์ โดย Google จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ บนเว็บไซต์ไว้ในดัชนี เช่น เนื้อหา โครงสร้างเว็บไซต์ และจำนวนลิงก์ที่เชื่อมกับเว็บไซต์  
• การจัดอันดับ (Ranking) : เมื่อ Google จัดทำดัชนีเว็บไซต์เรียบร้อยแล้ว จะทำการค้นหาเว็บไซต์ที่ตรงกับคำค้นหาของผู้ใช้ ซึ่งปัจจัยในการจัดอันดับเว็บไซต์ของ Google จะพิจารณาจากหลายองค์ประกอบ เช่น คอนเทนต์หรือเนื้อหาของเว็บไซต์ โครงสร้างเว็บ จำนวนลิงก์ที่เชื่อมกับเว็บไซต์ ฯลฯ 
• การแสดงผลการค้นหา (Displaying) : หลังจากที่ Google ทำการค้นหาเว็บไซต์ที่ตรงกับคำค้นหาของผู้ใช้แล้ว จะแสดงผลลัพธ์ในหน้าผลการค้นหา ซึ่งจะแสดงเว็บไซต์ที่ตรงกับคำค้นหาของผู้ใช้มากที่สุด โดยจะเรียงลำดับจากเว็บไซต์ที่ตรงกับคำค้นหามากสุดไปยังเว็บไซต์ที่ตรงกับคำค้นหาน้อยสุด  

ทำไมต้องทำ SEO บน Google

ส่วนนี้คือจุดสำคัญเลยครับ ว่าทำไมเราต้องสนใจการทำ SEO บน Google…

การทำ SEO บน Google มีความสำคัญสำหรับธุรกิจในไทย เนื่องจาก Google เป็นเครื่องมือค้นหาที่ได้รับความนิยมมากที่สุด จำนวนผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตในประเทศไทยกว่า 99% ใช้ Google สำหรับค้นหาข้อมูล 

สามารถเข้าชมสถิติรายเดือนได้ทาง : statcounter.com

การทำ SEO จะช่วยให้ธุรกิจของคุณมีโอกาสเข้าถึงกลุ่มลูกค้ามากขึ้น อีกทั้งยังเพิ่มยอดขายให้กับแบรนด์ เพราะเมื่อผู้ใช้ค้นหาคำค้นหาที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณ คำค้นหานั้นจะปรากฏในผลการค้นหาของ Google 

   .

Google Algorithm คืออะไร ?

Google Algorithm คืออัลกอริทึมที่ซับซ้อนที่ Google ใช้เพื่อจัดอันดับเว็บไซต์ โดยอัลกอริทึมนี้ใช้ปัจจัยหลายอย่างในการพิจารณาว่าเว็บไซต์ไหนควรอยู่อันดับที่สูงกว่า

Google Algorithm Update คือการเปลี่ยนแปลงของอัลกอริทึมการค้นหาของ Google ซึ่งจะส่งผลต่ออันดับของเว็บไซต์ โดย Google จะอัปเดตอัลกอริทึมใหม่อยู่ตลอดเวลา เพื่อปรับปรุงการค้นหาให้มีประสิทธิภาพและแม่นยำมากขึ้น

การเปลี่ยนแปลงของอัลกอริทึมอาจส่งผลต่ออันดับของเว็บไซต์ทั้งในเชิงบวกและลบ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับว่าเว็บไซต์ของคุณมีความสอดคล้องกับปัจจัยการค้นหาที่ Google อัปเดตหรือไม่ 

ตัวอย่างการอัปเดทในรอบ 10 ปี ที่ผ่านมา 

Google ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงอัลกอริทึมการค้นหาเท่าไหร่นัก แต่ก็จะมีปัจจัยบางอย่างที่อาจส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงอัลกอริทึม เช่น คุณภาพคอนเทนต์ โครงการสร้างเว็บไซต์ และจำนวนลิงก์ที่เชื่อมกับเว็บไซต์

ขอบคุณรูปภาพจาก : brightedge.com

.

การติดตามความเปลี่ยนแปลงด้าน SEO ของเว็บไซต์ ต้องทําอย่างไร

1. อ่านประกาศ : ทาง Google มักจะประกาศการเปลี่ยนแปลงอัลกอริทึมอยู่เสมอ คุณสามารถอ่านประกาศการอัปเดตได้ที่เว็บไซต์ของ Google ตรงนี้จะช่วยให้คุณรู้ว่ามีการเปลี่ยนแปลงอะไรบ้าง และจะปรับกลยุทธ์การทำ SEO อย่างไรให้สอดคล้องกับการปรับเปลี่ยนล่าสุด

• ดูประกาศการอัปเดท ที่ได้รับการยืนยันจาก Google : คลิก
• ดูการอัปเดทผ่านบทวิเคราะห์เว็บต่างประเทศ : Search Engine Journal และ Search engine Land

2. เข้าร่วมกลุ่ม SEO : ทุกวันนี้มีกลุ่ม SEO มากมายที่คุณสามารถเข้าร่วมได้ ซึ่งกลุ่มเหล่านี้เป็นแหล่งข้อมูลชั้นดีที่คุณจะสามารถติดตามการอัปเดตของ SEO อีกทั้งยังเป็นพื้นที่ที่จะได้พูดคุยกับนัก SEO คนอื่นเกี่ยวกับการทำ SEO ในขณะเดียวกัน ก็ได้เรียนรู้กลยุทธ์ใหม่ ๆ  

• ชุมชนคนทำ SEO ในประเทศไทย มีด้วยกัน 3 แหล่งด้วยกัน คือ
  1. กลุ่ม Facebook : สอน SEO และ WordPress in Thailand 
  2. กลุ่ม Line Openchat : กลุ่ม Thai SEO | เรียนรู้การทำ SEO
  3. กลุ่มใน Webboard : Thaiseoboard.com

3. อ่านบทความเกี่ยวกับ SEO :  คุณสามารถหาอ่านบทความ SEO จากเว็บไซต์ต่าง ๆ ในอินเทอร์เน็ต ซึ่งบทความ เหล่านี้เป็นแหล่งข้อมูลที่ดีในการเรียนรู้และติดตามการอัปเดตของ SEO เพื่อที่คุณจะได้ไอเดียใหม่ ๆ สำหรับการปรับปรุง SEO บนเว็บไซต์ของตนเอง 

• สามารถอ่านได้จาก Blog ของเรา : คลิก
• หรือ ค้นหาข้อมูลที่ทุกท่านอยากรู้ผ่าน Google

4. เข้าร่วมสัมมนา หรือ เวิร์กชอป SEO :  สัมมนาเกี่ยวกับการทำ SEO มักจะจัดขึ้นอยู่เป็นประจำ การเข้าร่วมสัมมนาจะทำให้คุณได้เรียนรู้การทำ SEO จากผู้เชี่ยวชาญโดยตรง อีกทั้งยังเป็นพื้นที่ที่จะได้พบปะกับคนในแวดวง SEO ซึ่งจะช่วยสร้าง Connection กับคนในวงการเดียวกัน 

• หากสนใจเข้าร่วม สามารถติดตามแฟนเพจของเราไว้ได้ทาง : คลิก

Google Ranking factor คืออะไร ?

Google Ranking Factor คือหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ Google ใช้เพื่อจัดอันดับเว็บไซต์ โดยทั้ง Google Algorithm และ  Google Ranking Factor จะทำงานควบคู่กัน นี่คือเหตุผลสำคัญที่คนทำ SEO ควรติดตามการอัปเดตอยู่เสมอ 

ซึ่งปัจจัยที่มีผลต่อการทำอันดับนั้น มีกว่า 200 ปัจจัยด้วยกัน.. แต่ในการทำงานจริง การใช้เทคนิคในแต่ละขั้นตอน เมื่อนับรวมปัจจัยอาจรวมได้มากกว่า 10 ปัจจัยในการทำงาน 1 ครั้ง ใช่ครับ การรู้ไว้เป็นผลดีแน่นอน เพราะนั้นคือรากฐานที่ Algorithm ใช้เป็นตัวประเมินการทำอันกับ SEO ของคุณ แต่มากกไปกว่าการที่เรารู้ปัจจัยการจัดอันดับ ก็คือ วิธีการทำ หรือ การนำไปใช้ 

ดู 200 ปัจจัยที่มีผลต่อการจัดอันดับ SEO ได้ทาง :

• Your Cheat Sheet to Google’s 200 (Known) Ranking Factors
• Google’s 200 Ranking Factors: The Complete List (2023)

.

ประโยชน์ของการทำ SEO สำหรับธุรกิจในประเทศไทย

1. เพิ่มการมองเห็นของเว็บไซต์บน Google 
2. เพิ่มลูกค้าหน้าใหม่
3. เพิ่มยอดขาย
4. ช่วยสร้างแบรนด์ของคุณ
5. เข้าถึงลูกค้าง่ายขึ้น 
6. เพิ่มมูลค่าให้เว็บไซต์ของคุณ

การทำ SEO จะต้องทำอย่างต่อเนื่องเพื่อให้เว็บไซต์ของคุณติดอันดับการค้นหาที่ดีบน Google ซึ่งถือได้ว่าเป็นการลงทุนในด้านการตลาดออนไลน์ที่คุ้มค่ามากสำหรับธุรกิจในประเทศไทย หากต้องการเพิ่มการมองหาของเว็บไซต์คุณเพื่อดึงดูดลูกค้าหน้าใหม่และต้องการเพิ่มยอดขาย การทำ SEO จึงเป็นวิธีที่ได้ผลลัพธ์ดีมาก 

เป็นไงกันบ้างครับ บทที่ 1 ผ่านไปแล้ว หวังว่าผมจะช่วยคลายข้อสงสัยของทุกท่านให้เบาลงได้บ้างนะครับ สำหรับเรื่อง SEO ทีนี่เราก็ไปกันต่อในบทเรียนที่ 2 นะครับ..