onemarketmaker

3 ตำแหน่ง SEO Specialist ที่จะช่วยให้องค์กรประสบความสำเร็จได้เร็วขึ้น

         งานด้าน SEO หรือ Search Engine Optimization นั้นเป็นงานที่ค่อนข้างเฉพาะทาง มีหลักการและแนวทางในการทำที่หลากหลาย ขึ้นอยู่กับผู้ปฏิบัติงานเลยว่าจะใช้วิธีการแบบไหน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี หรือก็คือการพาเว็บไซต์ของตัวเองติดอันดับหน้าแรก การค้นหาของ Google นั่นเอง

ดังนั้น ถ้ามีองค์กรหรือบริษัทไหนที่ให้ความสำคัญกับด้านนี้เป็นอย่างมาก ก็จำเป็นที่จะต้องมีทีมที่ทำด้าน SEO โดยเฉพาะ เพื่อเป็นขุมกำลังที่จะช่วยกันผลักดันให้หน้าเว็บไซต์ขึ้นไปถึงจุดหมายที่ต้องการ และในทีมก็จำเป็นต้องมีผู้เชี่ยวชาญที่มีความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับการทำ SEO ด้วยเช่นกัน ซึ่งจะมีอะไรบ้างนั้น วันนี้เรามีข้อมูลดี ๆ มาฝากกัน

1. Onpage SEO Specialist

         เป้าหมายหลักของการทำ SEO ก็คือการทำให้เว็บไซต์ที่รับผิดชอบติดอันดับการค้นหาในหน้า Google ให้ได้อันดับสูงที่สุด ซึ่งก็ต้องมีการวางแผนกลยุทธ์กันเป็นอย่างดี เพื่อให้ไปถึงเป้าหมายที่วางเอาไว้ได้ ซึ่งหน้าที่ของ Onpage SEO specialist นั้นก็จะเป็นผู้เชี่ยวชาญที่เข้าใจถึงปัจจัยภายในทางด้านนี้โดยเฉพาะ ต้องมีการวางแผนเพื่อเพิ่มจำนวนผู้เข้าชมเว็บต์ให้ได้ตามที่กำหนด รู้จักวิธีใช้เครื่องมีค้นหา และเข้าใจในพฤติกรรมการค้นหาของผู้ใช้งานนั่นเอง เพื่อที่จะดึงข้อมูลเหล่านี้มาวิเคราะห์ได้ นอกจากนี้ ยังมีความสามารถในการจัดการข้อมูลที่จะแสดงอยู่ที่หน้าเว็บไซต์ได้เป็นอย่างดี ทั้งชื่อเรื่องหรือหัวเรื่องสำคัญ ที่ต้องรู้ว่าควรเลือกใช้คำไหนมาเป็นคำหลัก เพื่อดันให้ติด SEO การเลือกใช้ Keyword ที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ มาเป็นตัวช่วยอีกแรง การเลือกใช้รูปและใส่ Keyword เพื่ออธิบายรูปก็เป็นอีกเรื่องที่สำคัญมาก ๆ เช่นกัน เพราะรูปภาพก็เป็นอีกหนึ่งเงื่อนไขที่จะช่วยทำให้อันดับของเว็บไซต์สูงขึ้นได้

         นอกจากความสามารถต่าง ๆ ที่กล่าวมาแล้วนั้น อีกหนึ่งความสามารถของ Onpage SEO specialist ก็คือการเลือกเนื้อหาที่เหมาะสมมานำเสนอได้ รู้วิธีการเพิ่มประสิทธิภาพให้กับ บทความ SEO เป็นอย่างดี เพราะตัวบทความเหล่านี้ จะเป็นส่วนที่ช่วยดันให้หน้าเว็บของเราติดอันดับการค้นหาได้สูงมากยิ่งขึ้น ถ้ามีการวางแผนการเขียนมาเป็นอย่างดี เลือกใช้ความมูลที่ตรงกับพฤติกรรมการใช้งานของผู้ใช้ ก็จะยิ่งทำให้เว็บไซต์ของเราแซงคู่แข่งขึ้นไปอยู่อันดับหน้าแรก Google ได้อย่างแน่นอน

2. Offpage SEO Specialist

         เมื่อมี Onpage SEO specialist ก็ต้องมี Offpage SEO specialist ด้วยเช่นกัน เพราะนอกจากที่เราต้องรู้การจัดการเกี่ยวกับปัจจัยภายในของ SEO แล้ว ปัจจัยที่อยู่ภายนอกก็จำเป็นที่จะต้องรู้ด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการทำ Backlink การสร้าง Link Building ที่จะเป็นตัวช่วยในการหา Traffic เข้าเว็บไซต์ของเราได้มากขึ้น นอกจากจะทำให้มีจำนวนผู้เข้าชมเพิ่มขึ้นแล้ว ก็ยังทำให้เว็บไซต์ดูมีความน่าเชื่อถือมากขึ้นอีกด้วย นอกจากนี้ก็ยังมีปัจจัยภายนอกที่สำคัญอีกอย่างก็คือ การสร้างช่องทางต่าง ๆ ให้เว็บไซต์ของเรานั้นมีพื้นที่อยู่ในโลกออนไลน์ (Social Signal) และทำให้คนทั่วไปได้รับรู้ถึงการมีอยู่ของเว็บไซต์นี้นั่นเอง ซึ่งการที่จะทำแบบนี้ได้ ก็ต้องมีการวางแผนการสร้าง SEO ที่แข็งแกร่ง และสร้างช่องทางการสื่อสารสู่ภายนอกโดยใช้โซเชียลมีเดียต่าง ๆ มาเป็นสะพานเชื่อมในจุดนี้

ซึ่งหน้าที่นี้ก็เป็นของ Offpage SEO specialist นั่นเอง ซึ่งเป็นหน้าที่ที่มีความสำคัญไม่แพ้กับ Onpage SEO specialis เลย เพราะถ้ามีการทำ Offpage ที่ดี ก็จะยิ่งทำให้ Google ให้ความสนใจ เมื่อมีการจัดอันดับเว็บไซต์ การที่จะขึ้นไปอยู่ในอันดับที่สูง ๆ หรืออันดับ 1 นั้นก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป

SEO Specialist

3. Technical SEO Specialist

         เมื่อพูดถึงปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับ SEO ทั้งภายในและภายนอกไปแล้ว ก็ยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญมาก ๆ ก็คือ ประสิทธิภาพการทำงาน เพื่อให้ให้บรรลุประสิทธิผลนั่นเอง เพราะการทำเว็บไซต์ขึ้นมา 1 เว็บนั้น ถ้ามีเซิร์ฟเวอร์ที่รองรับไม่ดีพอ ก็ไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาหรือข้อมูลต่าง ๆ ที่เราต้องการเผยแพร่ออกไปได้ หรืออาจจะทำให้เกิดปัญหาติดขัดขณะที่มีผู้ใช้งานเข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์ เช่น เว็บกระตุก รูปภาพไม่แสดง ข้อมูลแสดงผลช้า คลิปวิดีโอเล่นไม่ได้ เป็นต้น

ปัญหาเหล่านี้จะส่งผลให้เกิดประสบการณ์การใช้งานที่แย่แก่ตัวผู้ใช้ (user experience) ส่งผลให้ความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์ลดลง หลายคนอาจจะไม่เคยรู้ว่าก่อนว่า ระยะเวลาที่ผู้ใช้เข้ามาใช้งานในเว็บไซต์ก็มีส่วนสำคัญที่จะทำให้ Google เห็นว่าเว็บไซต์นี้มีความน่าเชื่อถือถือไม่ ถ้ามีการเข้าใช้เป็นเวลานาน และยังมีการกดดูเพิ่มเติมเพื่อไปหน้าอื่น ๆ อีก ก็จะยิ่งทำให้ดูมีความน่าเชื่อถือมากขึ้นนั่นเอง (Bounce Rate)

ดังนั้น Technical SEO specialist จึงจะเป็นคนที่มีหน้าที่หลักในการจัดการเรื่องเทคนิคต่างๆในกระพัฒนาองค์ประกอบ ปัจจัยทั้งหมดตามที่ได้กล่าวมา รวมไปถึงเรื่องของการนำเทคนิคเข้ามาช่วยให้การทำงานด้าน On-Page และ Off-Page ทำงานได้ง่าย และ เฉียบคมมากยิ่งขึ้นอีกด้วย หรือรวมไปถึงปัจจัยภายนอกที่กำลังเป็นที่นิยมกันอย่างมาก อย่างเช่น การใช้ SSL Certificate เพิ่มความปลอดภัยให้กับเว็บไซต์ และ ตัวผู้ใช้เอง เพื่อให้บอทของ Google เข้ามาเก็บข้อมูล แล้วมองว่าเว็บไซต์ของเรามีความปลอดภัยสูงข มีประสิทธิภาพในการรับรองผู้คนที่จะเข้ามาอ่าน เมื่อเราติดอันดับหน้าแรกนี่นเอง

         จะเห็นได้ว่าการที่จะทำ SEO ให้มีประสิทธิภาพและเห็นผลได้จริงนั้น จำเป็นจะต้องมีผู้เชี่ยวชาญ ในด้านต่างๆ ที่เข้าใจหลักการทำงานของ SEO Google อย่างแท้จริง ดังนั้น การลงทุนกับทีม SEO ก็เหมือนกับการสร้างทีมที่แข็งแกร่ง เพื่อเนรมิตให้เว็บไซต์ของคุณสามารถพุ่งทะยานติดอันดับสูง ๆ ของ Google ได้ เพราะฉะนั้นในตำแหน่ง SEO Specialist จึงจำเป็นต้องรู้ และ ทำทั้ง 3 องค์ประกอบที่กล่าวมาได้นั่นเองแล้วจึงค่อยฉีกตัวเอง พัฒนาไปในทิศทางต่างๆ ที่ชอบ และ ถนัด

บทความล่าสุด