ปัจจัยที่เพิ่มประสิทธิภาพการทำอันดับ SEO ในส่วนของ Domain name (ชื่อเว็บไซต์)
Content คือ สื่อกลางที่เข้ามาทำหน้าที่ในการสื่อสาร นำพาข้อความ หรือ “สาร” จากต้นทาง ไปสู่คนจำนวนมาก ซึ่งสารที่ส่งไปนั้น อาจอยู่ในรูปของภาพ วิดีโอ บทความ หรือ เสียง เป็นต้น แต่สำหรับรูปแบบของ Content ที่เกิดขึ้นบน Website นั้น มักจะนิยมใช้การส่งสารโดยใช้บทความ และ รูปภาพ เป็นหลัก
การมีตัวกลาง หรือ Content ที่ดี มีความเหมาะสม ก็จะช่วยดึงความสนใจให้คนอยากเข้ามาดูเว็บไซต์ั้นั้น ๆ ได้ เท่ากับว่าในมุมของการทำ SEO บทความย่อมเป็นสิ่งสำคัญ และจำเป็น เพราะเปรียบเสมือนตัวขับเคลื่อนที่ดี ในการทำ Website ให้มีคนเข้าชม (Traffic)
บทความทั่วไป คือ การเขียนข้อความยาว ๆ ทั้ง เชิงรายงาน การนำเสนอข้อมูล ประกอบกับข้อคิดเห็น เพื่อเผยแพร่ไปสู่ผู้อ่าน
แน่นอนครับว่า บทความ มักจะประกอบด้วยส่วนของ หัวข้อ ที่เป็นชื่อเรื่อง และ หัวข้อรอง ที่อยู่ภายในบทความ ทำหน้าที่ขยายใจความให้หัวข้อหลัก เพื่อเติมเต็มให้บทความนั้นๆ มีความสมบูรณ์ที่สุด
บทความ SEO คือ บทความที่มุ่งเน้นให้ผู้คนค้นหาในเครื่องมือค้นหา (Google) นำทางมาเจอกับเว็บไซต์ปลายทางของเรา โดยอาศัย Keyword เป็นตัวเชื่อม
สรุปได้ว่า บทความทั่วไป คือการเขียนเพื่อจุดประสงค์บางอย่างก็จริง แต่ถ้าคุณต้องการทำบทความ SEO คุณจึงจำเป็นต้องเข้าใจหลักการในการทำบทความ SEO ได้เช่นกัน และทั้งหมดนี้ คือ วิธีการเพิ่มประสิทธิภาพ SEO Content (บทความ+รูปภาพ)
1
ความเกี่ยวข้อง | เนื้อหาควรมีความเกี่ยวข้องกับคำค้นหา และตรงตามจุดประสงค์ของผู้คนที่ค้นหาได้มากที่สุด
ยกตัวอย่าง
2
การสร้างคุณค่า | เป็นอีกส่วนที่ขยายเสริมให้กับข้อที่ 1 โดย Google ให้ความสำคัญมาก ๆ จึงออกอัลกอริทึมที่มีชื่อว่า “Helpful content update” เพื่อมาตัดสินเว็บไซต์ที่ทำบทความได้แย่ เพราะฉะนั้นหากคุณอยากทำ Content ให้ได้คุณภาพ และสามารถสร้างประโยชน์ให้กับผู้คนได้ จงศึกษาเรื่อง E-E-A-T
3
การเพิ่มประสิทธิภาพให้กับคำหลัก | หรือคำที่ต้องการให้ผู้ใช้ค้นหาเจอ สิ่งที่สำคัญที่พลาดไม่ได้ คือ การทำให้ Google เข้าใจ สิ่งที่เราต้องการสื่อ เพราะฉะนั้น 3 ปัจจัยต่อไปนี้ จะช่วยให้บทความ SEO ของคุณทำอันดับได้ง่ายขึ้น
4
คำที่มีความหมายใกล้เคียงกัน | การมีคำเหล่านี้ในบทความเดียวกัน ทั้งในเนื้อหา และ หัวข้อย่อย สามารถสร้างความเป็นธรรมชาติ และความน่าเชื่อถือได้
ตัวอย่าง
โดยปกติแล้ว หากคุณใช้มนุษย์ในการเขียนบทความ คำเหล่านี้จะมีได้โดยปริยาย ยกเว้นซะว่า.. คุณตั้งใจทำ SEO มากเกินไป ก็คือพยายามจับ Keyword ไปใส่ในส่วนต่าง ๆ จนเกินความพอดี
5
ความยาวของบทความ | มักนับเป็นจำนวนคำ (Word) นิยมใช้ที่ 500 คำ ขึ้นไป/บทความ ส่วนนี้ผมแนะนำให้อ้างอิงตามบทความของคู่แข่งในตลาด โดยต้องไม่น้อยกว่า
6
การกระจายคำค้นหา | เป็นส่วนขยายความเสริมข้อมูลให้กับหัวข้อที่ 4 ครับ อย่างที่บอกว่าถ้าคุณตั้งใจใส่คำค้นหาลงไปในบทความมากเกินไป (Keyword Stuffing) อาจทำให้ Google มองว่าคุณตั้งใจทำ SEO ไม่ได้เป็นผลดีต่อการทำอันดับแน่นอนครับ
เพราะฉะนั้น Keyword ควรกระจายในเนื้อหาควรอยู่ % ที่พอเหมาะเท่านั้น ซึ่งปัจจุบันก็คือ 0.5 – 2%
7
สารบัญ | การมีสารบัญ ถือเป็นตัวช่วยเสริมเสริมประสบการณ์ที่ดีให้แก่ User ที่เข้ามาหน้าเว็บเพจ เรียกว่า User Experience
8
SSL เป็นมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลที่ถูกนำมาใช้ในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตของทางเว็บเบราว์เซอร์ และ Google ก็ให้ความสำคัญกับเว็บทีได้รับ SSL เช่นกัน
วิธีการสังเกต
9
SSL เป็นมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลที่ถูกนำมาใช้ในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตของทางเว็บเบราว์เซอร์ และ Google ก็ให้ความสำคัญกับเว็บทีได้รับ SSL เช่นกัน
วิธีการสังเกต
10
SSL เป็นมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลที่ถูกนำมาใช้ในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตของทางเว็บเบราว์เซอร์ และ Google ก็ให้ความสำคัญกับเว็บทีได้รับ SSL เช่นกัน
วิธีการสังเกต
11
SSL เป็นมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลที่ถูกนำมาใช้ในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตของทางเว็บเบราว์เซอร์ และ Google ก็ให้ความสำคัญกับเว็บทีได้รับ SSL เช่นกัน
วิธีการสังเกต
12
SSL เป็นมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลที่ถูกนำมาใช้ในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตของทางเว็บเบราว์เซอร์ และ Google ก็ให้ความสำคัญกับเว็บทีได้รับ SSL เช่นกัน
วิธีการสังเกต
13
SSL เป็นมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลที่ถูกนำมาใช้ในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตของทางเว็บเบราว์เซอร์ และ Google ก็ให้ความสำคัญกับเว็บทีได้รับ SSL เช่นกัน
วิธีการสังเกต
ทุกท่านสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมที่มีความเกี่ยวข้องกับเรื่อง “โดเมน” ตามลิสในหัวข้อด้านล่างนี้ รวมไปถึงแหล่งอ้างอิงต่าง ๆ จากแหล่งที่น่าเชื่อถือ